การเสด็จออกมหาสมาคมในโอกาสพิเศษ ของ การเสด็จออกมหาสมาคมในรัชกาลที่ 9

ภาพโอกาสวัน/เวลาสถานที่คณะบุคคลที่เฝ้าฯหมายเหตุ
พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส[1]28 เมษายน พ.ศ. 2493
เวลา 16.00 น.
พระที่นั่งไพศาลทักษิณ
พระบรมมหาราชวัง
  • พระบรมวงศานุวงศ์
  • คณะองคมนตรี
  • คณะรัฐมนตรี
  • สมาชิกรัฐสภา
  • คณะทูตานุทูต
  • ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก[2]5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493
เวลา 14.00 น.
พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
พระบรมมหาราชวัง
  • พระบรมวงศานุวงศ์
  • ข้าทูลละอองธุลีพระบาท
  • คณะองคมนตรี
  • คณะรัฐมนตรี
  • สมาชิกรัฐสภา
  • คณะทูตานุทูต
  • ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
ทรงเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ พร้อมเครื่องแบบเต็มยศ ประทับพระราชบัลลังก์ บนพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ เหนือพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร ซึ่งตั้งอยู่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมาน เบื้องหลังพระวิสูตร (ม่าน)
ไฟล์:Bhumibol Adulyadej and Sirikit 7 May 1950.jpgพระราชพิธีบรมราชาภิเษก[3]7 พฤษภาคม พ.ศ. 2493
เวลา 17.00 น.
พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท
พระบรมมหาราชวัง
  • พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
  • เสด็จออก ณ สีหบัญชร เป็นครั้งแรกในรัชกาลที่ 9
  • เป็นการเสด็จออกมหาสมาคมต่อหน้าพสกนิกรครั้งแรกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทรงแจ้งพระราชดำริในการเสด็จออกบรรพชาอุปสมบท[4]18 ตุลาคม พ.ศ. 2499พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท
พระบรมมหาราชวัง
  • พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
  • เสด็จออก ณ สีหบัญชร
  • มีพระราชดำรัส ใจความสำคัญว่า “ข้าพเจ้าขอแถลงดำริ ที่จะบรรพชาอุปสมบทในพระศาสนาให้ทราบ โดยที่พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติของเรา ทั้งตามความศรัทธาเชื่อมั่นของข้าพเจ้าเอง ก็เห็นเป็นศาสนาที่ดีศาสนาหนึ่ง เนื่องในบรรดาสัจธรรมคำสั่งสอน อันชอบด้วยเหตุผล จึ่งเคยคิดอยู่ว่าถ้าโอกาสอำนวย ข้าพเจ้าควรจักได้บวชสักเวลาหนึ่ง ตามราชประเพณี”
  • ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม การพระราชพิธีผนวช เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499
ไฟล์:Bhumibol Adulyadej and Sirikit 19 January 1961.jpgงานสมโภชเนื่องในการเสด็จนิวัติพระนคร หลังจากทรงเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจเสด็จเยือนสหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรป[5]19 มกราคม พ.ศ. 2504พระที่นั่งอนันตสมาคม
พระราชวังดุสิต
  • พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
  • เสด็จออก ณ สีหบัญชร
  • มีพระราชดำรัส ความตอนหนึ่งว่า “ประเทศไหน ประชาชนพลเมืองมีความสามัคคีกลมเกลียวกันดี มีระเบียบวินัยดี ประเทศนั้นก็เจริญ และอยู่ในฐานะดี ยิ่งมีความสมัครสมานกลมเกลียวกันมาก ก็ยิ่งเจริญมาก จึงเห็นได้ว่า ความสามัคคีกลมเกลียวกัน ในระหว่างคนในชาติ และความเข้าใจรักษาระเบียบวินัยนี้ ย่อมเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่ง ที่จะช่วยนำประเทศชาติ สู่ความวัฒนาถาวร”

พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 3 รอบ[6]5 ธันวาคม พ.ศ. 2506พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
พระบรมมหาราชวัง
  • พระบรมวงศานุวงศ์
  • ข้าทูลละอองธุลีพระบาท
  • คณะองคมนตรี
  • คณะรัฐมนตรี
  • สมาชิกรัฐสภา
  • คณะทูตานุทูต
  • ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
  • มีพระราชดำรัส ความตอนหนึ่งว่า “ข้าพเจ้ามั่นใจว่า ในกาลต่อไป ด้วยความพร้อมเพรียง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนี้ จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ อันจะเกิดแก่บ้านเมืองเรา ให้ผ่านพ้นไปได้ เราทั้งหลายจักต้องพร้อมใจกัน ปฏิบัติหน้าที่เพื่อความรุ่งเรืองของชาติ อันเป็นที่รักของเรา”
พระราชพิธีรัชดาภิเษก[7]9 มิถุนายน พ.ศ. 2514
เวลา 10.00 น.
พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
พระบรมมหาราชวัง
  • พระบรมวงศานุวงศ์
  • ข้าทูลละอองธุลีพระบาท
  • คณะองคมนตรี
  • คณะรัฐมนตรี
  • สมาชิกรัฐสภา
  • คณะทูตานุทูต
  • ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
  • มีพระราชดำรัส ความตอนหนึ่งว่า “ข้าพเจ้าใคร่ขอให้ทุกฝ่าย ตั้งความปรารถนาที่จะร่วมสามัคคีกัน ปฏิบัติงานน้อยใหญ่ตามหน้าที่ ให้บังเกิดผลอันสมบูรณ์ ให้ประเทศชาติของเราได้มีความสุขสงบ และจำเริญวัฒนายั่งยืน ตลอดกาลสืบไป”
พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ[8]5 ธันวาคม พ.ศ. 2530
เวลา 10.30 น.
พระที่นั่งชัยมังคลาภิเษก
มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
  • พระบรมวงศานุวงศ์
  • ข้าทูลละอองธุลีพระบาท
  • คณะองคมนตรี
  • คณะรัฐมนตรี
  • สมาชิกรัฐสภา
  • คณะทูตานุทูต
  • ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
  • พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
  • มีพระราชดำรัส ความตอนหนึ่งว่า “ขอให้ท่านทั้งหลายในมหาสมาคมนี้ ตลอดจนประชาชนชาวไทยทั่วหน้า ได้พิจารณาศึกษาให้ทราบความหมาย และคุณค่าของความสามัคคีอย่างถ่องแท้ แล้วตั้งความคิด

จิตใจให้แน่วแน่หนักแน่น ที่จะร่วมกันบำเพ็ญกรณียกิจของตน ๆ ให้ประสานและเกื้อกูลส่งเสริมกันอย่างสอดคล้อง ด้วยความสุจริต แข็งขัน และจริงใจ เพื่อให้ผลสำเร็จทั้งหลาย ที่แต่ละฝ่ายแต่ละคนกระทำ ประมวลกันเป็นความเจริญมั่นคง ความวัฒนาผาสุก และความรุ่งเรืองไพบูลย์ ของประเทศชาติไทยของเรา”

พระราชพิธีกาญจนาภิเษก พุทธศักราช 2539[9]9 มิถุนายน พ.ศ. 2539
เวลา 10.30 น.
พระที่นั่งกาญจนาภิเษก
มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
  • พระบรมวงศานุวงศ์
  • ข้าทูลละอองธุลีพระบาท
  • คณะองคมนตรี
  • คณะรัฐมนตรี
  • สมาชิกรัฐสภา
  • คณะทูตานุทูต
  • ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
  • พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
  • มีพระราชดำรัส ความตอนหนึ่งว่า “ในโอกาสพิเศษนี้ ข้าพเจ้าใคร่ขอให้ท่านทั้งหลายในมหาสมาคมนี้ ตลอดจนประชาชนชาวไทยทั่วหน้า ได้ตั้งความคิดจิตใจ ให้แน่วแน่หนักแน่น อยู่ในความสัตย์สุจริต และความขยันหมั่นเพียร ถ้าทุกคนในชาติ จะได้ตั้งตนตั้งใจ อยู่ในความเพียรดังกล่าว ประโยชน์และความสุขก็จะบังเกิดขึ้นพร้อม ทั้งแก่ส่วนตัวและส่วนรวม ประเทศชาติของเรา ก็จะสามารถรักษาความเป็นปกติมั่นคง

พร้อมกับพัฒนาให้เจริญรุดหน้าไปได้ดังปรารถนา”

พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ[10]5 ธันวาคม พ.ศ. 2542
เวลา 10.30 น.
พระที่นั่งอนันตสมาคม
พระราชวังดุสิต
  • พระบรมวงศานุวงศ์
  • ข้าทูลละอองธุลีพระบาท
  • คณะองคมนตรี
  • คณะรัฐมนตรี
  • สมาชิกรัฐสภา
  • คณะทูตานุทูต
  • ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
  • พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
  • เสด็จออก ณ สีหบัญชร
  • มีพระราชดำรัส ความตอนหนึ่งว่า “คนที่มีไมตรีต่อกัน จะคิดอะไร ก็คิดแต่ในทางสร้างสรรค์ ที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลกัน จะพูดอะไร ก็ใช้เหตุผลเจรจากัน ด้วยความเข้าอกเข้าใจกัน จะทำอะไร ก็ช่วยเหลือร่วมมือกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน”
พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี[11]9 มิถุนายน พ.ศ. 2549
เวลา 11.30 น.
พระที่นั่งอนันตสมาคม
พระราชวังดุสิต
  • พระบรมวงศานุวงศ์
  • ข้าทูลละอองธุลีพระบาท
  • คณะองคมนตรี
  • คณะรัฐมนตรี
  • สมาชิกรัฐสภา
  • คณะทูตานุทูต
  • ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
  • พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
  • เสด็จออก ณ สีหบัญชร
  • มีพระราชดำรัส ความตอนหนึ่งว่า “จึงขอให้ท่านทั้งหลายในมหาสมาคมนี้ ทั้งประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ได้รักษาจิตใจและคุณธรรมนี้ไว้ให้เหนียวแน่น และถ่ายทอดความคิด จิตใจนี้กันต่อไปอย่าให้ขาดสาย เพื่อให้ประเทศชาติของเราดำรงยืนยงอยู่ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข ทั้งในปัจจุบันและในภายหน้า ”
  • โอกาสนี้ พสกนิกรที่มาเฝ้าฯ เต็มพระลานพระราชวังดุสิต เรื่อยไปจนตลอดแนวถนนราชดำเนินนอก ต่างแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง ประดับตราสัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา[12]5 ธันวาคม พ.ศ. 2550
เวลา 10.30 น.
พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
พระบรมมหาราชวัง
  • พระบรมวงศานุวงศ์
  • ข้าทูลละอองธุลีพระบาท
  • คณะองคมนตรี
  • คณะรัฐมนตรี
  • สมาชิกรัฐสภา
  • คณะทูตานุทูต
  • ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
  • เสด็จออก ณ มุขเด็จ เป็นครั้งแรกในรัชกาลที่ 9
  • มีพระราชดำรัส ความตอนหนึ่งว่า “ถ้าทุกคนในชาติตั้งตนตั้งใจให้อยู่ในความสามัคคีดังกล่าว ประโยชน์และความสุขก็จะบังเกิดขึ้นพร้อม ทั้งแก่ส่วนตัวและส่วนรวม ประเทศชาติของเราก็จะสามารถรักษาความปรกติมั่นคง พร้อมพัตนาให้รุดหน้าไปได้ดังปรารถนา”
พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ[13]5 ธันวาคม พ.ศ. 2554
เวลา 10.30 น.
พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
พระบรมมหาราชวัง
  • พระบรมวงศานุวงศ์
  • ข้าทูลละอองธุลีพระบาท
  • คณะองคมนตรี
  • คณะรัฐมนตรี
  • สมาชิกรัฐสภา
  • คณะทูตานุทูต
  • ข้าราชการพลเรือนชั้นผู้ใหญ่
  • ข้าราชการทหารชั้นผู้ใหญ่ และทหารรักษาพระองค์ ที่ประกอบพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนฯ
  • เสด็จออก ณ มุขเด็จ เป็นครั้งที่สุดท้ายในรัชกาล 9 โดยมีการติดตั้งพระวิสูตรบนมุขเด็จ และเลื่อนพระราชอาสน์ออกสู่มุขเด็จเป็นครั้งแรก
  • มีพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า “ข้อสำคัญจะต้องไม่ขัดแย้งแตกแยกกัน อาจจะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้งานที่ทำบรรลุผลที่มีประโยชน์ เพื่อความผาสุกของประชาชนและความมั่นคง ปลอดภัยของประเทศชาติ”
พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา
85 พรรษา พุทธศักราช 2555[14]
5 ธันวาคม พ.ศ. 2555
เวลา 10.30 น.
พระที่นั่งอนันตสมาคม
พระราชวังดุสิต
  • พระบรมวงศานุวงศ์
  • ข้าทูลละอองธุลีพระบาท
  • คณะองคมนตรี
  • คณะรัฐมนตรี
  • สมาชิกรัฐสภา
  • คณะทูตานุทูต
  • ข้าราชการพลเรือนชั้นผู้ใหญ่
  • ข้าราชการทหารชั้นผู้ใหญ่ และทหารรักษาพระองค์ ที่ประกอบพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนฯ
  • พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
  • เสด็จออก ณ สีหบัญชร โดยมีการต่อเติมขยายสีหบัญชรให้มีบริเวณกว้างขวางขึ้น เพื่อให้พระบรมวงศานุวงศ์สามารถยืนประทับที่สีหบัญชรได้ พร้อมทั้งติดตั้งพระวิสูตร และเลื่อนพระราชอาสน์ออกสู่สีหบัญชรเป็นครั้งแรกด้วย
  • สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มิได้เสด็จฯ ทรงร่วมในการนี้ เนื่องจากทรงพระประชวร
  • มีพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า “ความเมตตาปรารถนาดีต่อกันนี้ เป็นปัจจัยอย่างสำคัญ ที่จะยังความพร้อมเพรียงให้เกิดมีขึ้น ทั้งในหมู่คณะและในชาติบ้านเมือง และถ้าคนไทยเรา ยังมีคุณธรรมข้อนี้ประจำอยู่ในจิตใจ ก็มีความหวังได้ว่า บ้านเมืองไทย ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ๆ ก็จะอยู่รอดปลอดภัย และดำรงความมั่นคงต่อไปได้ ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน”
  • โอกาสนี้ พสกนิกรที่มาเฝ้าฯ เต็มพระลานพระราชวังดุสิต เรื่อยไปจนตลอดแนวถนนราชดำเนินนอก แต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพ
  • เป็นการเสด็จออกมหาสมาคมต่อหน้าพสกนิกรครั้งสุดท้ายของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

แหล่งที่มา

WikiPedia: การเสด็จออกมหาสมาคมในรัชกาลที่ 9 http://kapook.com/ http://hilight.kapook.com/view/18044 http://www.palaces.thai.net/king60/2006-06-09/inde... http://www.brh.thaigov.net/webboard/index.php?topi... http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID... http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID... http://www.manager.co.th/home/ http://www.ohm.go.th http://www.ohm.go.th/documents/BN2493008/pdf/T0001... http://www.ohm.go.th/documents/BN2493008/pdf/T0001...